“โอเชี่ยน ปาร์ค คอร์ปอเรชั่น” ฮ่องกง เผยธุรกิจพลิกฟื้น-เติบโตโดดเด่น ปี 2023-2024 รายได้พุ่ง 41% ผู้เข้าชมสวนสนุก Ocean Park-Water World เพิ่มขึ้น 29% รุกขยายฐานเจาะนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก หลังตัวเลข “จีน-ฟิลิปปินส์-อินเดีย” ทะลัก พร้อมวางแผนลงทุนสร้างพื้นที่ใหม่ Bungee Jumping-Zip Line ย้ำจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวของฮ่องกง
นางสาวโรซาลินด์ ซิว ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายขาย การตลาดและความบันเทิง โอเชี่ยน ปาร์ค คอร์ปอเรชั่น (OPC) ผู้บริหารสวนสนุก Ocean Park และ Water World (ฮ่องกง) เปิดเผยว่า การดำเนินกลยุทธ์ที่มุ่งมั่นและการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่ท้าทาย ทำให้บริษัทสามารถก้าวผ่านอุปสรรคและฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว โดยมีจำนวนผู้เข้าชมของสวนสนุก Ocean Park และ Water World (ฮ่องกง) ในปี 2023-2024 จำนวน 3.1 ล้านคน เพิ่มขึ้น 29% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
โดยในส่วนของรายได้รวมเพิ่มขึ้น 41% คิดเป็นมูลค่า 1,181 ล้านเหรียญฮ่องกง ซึ่งถือเป็นสถิติที่ดีที่สุดนับตั้งแต่การระบาดใหญ่ของไวรัสโควิด-19
“รายได้ที่เพิ่มขึ้นนี้มาจากรายได้ค่าเข้าชมที่สูงขึ้น 54% รายได้จากการจัดเลี้ยงเพิ่มขึ้น 32% และรายได้จากการขายสินค้าและกิจกรรมต่าง ๆ เพิ่มขึ้น 27% ขณะเดียวกันรายได้ต่อหัว หรือ Revenue per Visitor ก็เพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับปีก่อน ถือเป็นสัญญาณที่ดีของการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องและการเติบโตอย่างยั่งยืนของเรา”
ขณะเดียวกัน บริษัทยังได้ดำเนินการปรับปรุงฟื้นฟูทรัพย์สินและอุปกรณ์ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ทำให้การด้อยค่าของทรัพย์สินกลับคืนมา โดยมีมูลค่าถึง 275.5 ล้านเหรียญฮ่องกง ซึ่งช่วยให้บริษัทยังคงสามารถรักษาสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง โดยมียอดคงเหลือในธนาคารถึง 1,660.9 ล้านเหรียญฮ่องกง (ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2024)
นอกจากนี้ ยังได้ขยายฐานแฟนคลับจากนักท่องเที่ยวทั่วโลกอย่างรวดเร็ว โดยมีนักท่องเที่ยวจากจีนแผ่นดินใหญ่ ฟิลิปปินส์ อินเดีย และประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เติบโตขึ้นอย่างมาก อาทิ นักท่องเที่ยวจากจีนแผ่นดินใหญ่เพิ่มขึ้น 355%, ฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 226%, อินเดีย เพิ่มขึ้นถึง 412% เป็นต้น ซึ่งการเติบโตนี้สะท้อนถึงความสำเร็จของ OPC ในการเพิ่มการตลาดและกิจกรรมเพื่อดึงดูดผู้เข้าชมจากต่างประเทศ
“ในอนาคต OPC วางแผนที่จะสร้างพื้นที่ใหม่สำหรับกิจกรรมที่ท้าทายและตื่นเต้น เช่น Bungee Jumping และ Zip Line ซึ่งจะตั้งอยู่ในพื้นที่ภูเขาและทะเลที่มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม พื้นที่ใหม่นี้คาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ในปี 2028 และจะเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่สำคัญในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของฮ่องกง” นางสาวโรซาลินด์กล่าว
สำหรับตลาดประเทศไทยนั้น บริษัทได้มุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายที่เป็นครอบครัวและนักท่องเที่ยวที่ต้องการประสบการณ์ท่องเที่ยวที่ผสมผสานความสนุกสนานและการเรียนรู้ โดยในปี 2023-2024 ได้จัดกิจกรรมหลากหลายที่เหมาะสำหรับเด็กและครอบครัว เช่น เทศกาลซัมเมอร์สแปลชที่ได้รับความนิยมในช่วงฤดูร้อน รวมถึงกิจกรรมที่จัดขึ้นในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและตรุษจีน ที่มีการแสดงและกิจกรรมที่เหมาะสมสำหรับทุกคนในครอบครัว
รวมทั้งให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ โดยเฉพาะโปรแกรมการศึกษาที่เชื่อมโยงกับธรรมชาติและวิทยาศาสตร์ เช่น กิจกรรมทางวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับเครื่องเล่นต่าง ๆ รวมถึงการเรียนรู้เกี่ยวกับสัตว์และธรรมชาติ ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีจากทั้งนักเรียนในฮ่องกงและนักเรียนจากต่างประเทศ
นางสาวโรซาลินด์กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี 2023-2024 บริษัทได้เพิ่มค่าใช้จ่ายในการอนุรักษ์และการศึกษา 10% เป็น 437.6 ล้านเหรียญฮ่องกง จากปี 2022-2023 ที่มีมูลค่า 397.1 ล้านเหรียญฮ่องกง ซึ่งเป็นการขับเคลื่อนภารกิจในการสร้างความยั่งยืนและการศึกษาให้กับเยาวชนและชุมชน โดยได้ขยายโครงการการศึกษาร่วมกับโรงเรียนมากกว่า 200 แห่ง และคาดว่าจะขยายเพิ่มอีก 300 แห่งในปี 2024-2025
“โอเชี่ยน ปาร์คฯ เรายังคงให้ความสำคัญกับการพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่ยั่งยืน โดยมุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์ที่มีคุณค่าทางการศึกษาและสอดคล้องกับการอนุรักษ์ธรรมชาติ เพื่อให้การท่องเที่ยวในฮ่องกงสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมมอบประสบการณ์ที่น่าจดจำให้แก่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกในอนาคต” นางสาวโรซาลินด์กล่าว
อ่านข่าวต้นฉบับ: “โอเชี่ยนปาร์ค” เจาะนักท่องเที่ยวทั่วโลก