พลิกกลยุทธ์กันแบบนาทีต่อนาทีจริง ๆ สำหรับการเลือกคณะกรรมการบริหารสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) หรือสภาท่องเที่ยว เมื่อ 14 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา
โดยผลการเลือกคือ “ชัย อรุณานนท์ชัย” บิ๊กท่องเที่ยวจังหวัดสมุทรปราการ รองประธานสมาคมสมาพันธ์ธุรกิจการท่องเที่ยวส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย (TFOPTA) ซึ่งได้รับแรงสนับสนุนจากกลุ่ม TFOPTA ได้รับเลือกให้เป็น “ประธาน” สภาท่องเที่ยวคนใหม่ มีวาระการบริหารงานประจำปี 2568-2570
เริ่มต้นดีเดินตามกฎข้อบังคับ
ผู้คร่ำหวอดในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวรายหนึ่งบอกกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า การเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารและประธาน สทท.ครั้งนี้ มีปรากฏการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้นและน่าชื่นชม คือ การดำเนินการเลือกตั้งแบบเลือกตามสาขาอาชีพ และเลือกตามเขตพื้นที่ ซึ่งเป็นไปตามระเบียบ ข้อบังคับ ของ พ.ร.บ.สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
แม้ว่าในที่ประชุมจะมีการเสนอให้ประธานการเลือกตั้งพิจารณาการเลือกตั้งแบบยกมือโหวตเป็นทีม เปิดหน้าโหวตว่าใครสนับสนุนใครแบบเห็นหน้ากัน โดยให้เหตุผลว่าเป็นวิธีที่รวบรัดและทำให้การเลือกตั้งดำเนินการเสร็จเร็วก็ตาม
“ปีนี้เราได้คุณมงคล วิมลรัตน์ รองปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ซึ่งเป็นผู้ที่มีความรู้ด้านกฎหมายมาเป็นประธานการเลือกตั้ง ทำให้กระบวนการเลือกตั้งเดินได้ตามพระราชบัญญัติ มีความโปร่งใส และไม่ได้ลิดรอนสิทธิการออกเสียงของสมาชิก จึงนับว่าเป็นการเริ่มต้นนับ 1 ที่สง่างาม และเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่ายได้อย่างแท้จริง”
สอดคล้องกับ “สุรวัช อัครวรมาศ” ในฐานะที่รับหน้าที่ให้เป็นประธานกรรมการจัดหาแนวทางในการเลือกตั้งครั้งนี้ที่โพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัวหลังการเลือกตั้ง 1 วันว่า “ดีใจที่ได้ทำการจัดการเลือกตั้งคณะกรรมการสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวฯ ได้เรียบร้อย ถูกต้องตามหลักการของเจตนารมณ์ในการก่อตั้งสภาท่องเที่ยว”
พร้อมพิมพ์เครื่องหมายแฮชแท็กว่า #กลัดกระดุมเม็ดแรก ซึ่งมีคนท่องเที่ยวจำนวนหนึ่งเข้ามาคอมเมนต์ชื่นชมการทำงานของคณะกรรมการการเลือกตั้งที่ทำหน้าที่อย่างโปร่งใส ยุติธรรม เป็นที่ยอมรับ ทำให้สภาท่องเที่ยวมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี
“โก้-ภูมิกิตติ์” คุมเกมเบ็ดเสร็จ
แหล่งข่าวในสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวฯรายหนึ่งระบุว่า แม้ผลการเลือกตั้งครั้งนี้จะออกมาว่า “ชัย อรุณานนท์ชัย” ได้รับเลือกให้เป็น “ประธาน” แต่ความยินดีปรีดากลับไม่ได้โฟกัสไปที่ตัวผู้ชนะมากนัก
เพราะหากดูภาพรวมแล้วการเลือกตั้งครั้งนี้ผู้เสนอตัวเป็นประธาน “เจ็บ” ทุกคน มากน้อยต่างกัน แม้แต่ผู้ชนะอย่าง “คุณชัย”
โดยหลายเสียงพูดตรงกันว่าบุคคลสำคัญที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของคุณชัย และน่าจะเป็นผู้ได้ประโยชน์สูงสุดในครั้งนี้ คือ “โก้-ภูมิกิตติ์ รักแต่งาม” อดีตนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต
พร้อมให้ข้อมูลว่า “โก้-ภูมิกิตติ์” ถือเป็นคีย์แมนที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการเปิดประเทศ “ภูเก็ต แซนด์บอกซ์” เมื่อกลางปี 2564 และเปิดหน้าท้าชิงตำแหน่ง “ประธาน” สภาท่องเที่ยว กับ “โกจง-ชำนาญ ศรีสวัสดิ์” เมื่อปี 2566 แต่พ่ายแพ้ไป
หลังจากที่ “โก้-ภูมิกิตติ์” พ่ายแพ้เมื่อ 2 ปีก่อน เขาก็ได้รวบรวมคนท่องเที่ยวที่มีแนวคิดเดียวกันไว้ในมือจำนวนมาก การเลือกตั้งครั้งนี้เขาจึงมีเสียงสำหรับไว้ “ต่อรอง” กับผู้ที่เสนอตัวเป็นประธาน สทท. ในมือถึงเกือบ 40 เสียง จากคะแนนเสียงทั้งหมดราว 180 เสียง
เรียกว่า ทีมไหนได้เป็นพวก ออกแรงอีกแค่ 50-60 เสียงก็ชนะแล้ว แต่ก็ต้องยอมแลกกับเงื่อนไขการต่อรองที่ค่อนข้างสูง
เล่ากันว่าเมื่อส่ง “คุณชัย” เข้าถึงเส้นชัยแล้ว ก้าวต่อจากนี้ “โก้-ภูมิกิตติ์” จะกลายเป็นผู้คุมเกมเบ็ดเสร็จ และพร้อมเปลี่ยนตำแหน่งมาเป็นผู้เล่นศูนย์หน้าแน่นอน โดยมี “ส้ม-ศิริรัตน์ เด่นวรพงษาสุข” เจ้าของโรงแรมอุบลบุรี ที่ว่างเว้นจากงานสภาท่องเที่ยวไปประมาณ 4 ปี เข้ามาร่วมเป็นอีกหนึ่งผู้เล่นคนสำคัญในฐานะ “กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ” ด้วย
โดย “ส้ม-ศิริรัตน์” ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่พ่ายแพ้ให้กับ “โกจง-ชำนาญ” ในเวทีเลือกตั้ง สทท. เมื่อ ธันวาคม 2563 เมื่อคนหัวอกเดียวกันมารวมพลังกัน หลายคนจึงอดคิดไม่ได้ว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ทั้ง 2 คนมีเป้าหมายเดียวกัน คือ โค่นขั้วอำนาจกลุ่ม “โกจง-ชำนาญ” ที่เพิ่งหมดวาระลง และก็ทำสำเร็จเสียด้วย
และยังวิเคราะห์ต่อด้วยว่า ตัวแทนสภาท่องเที่ยวที่น่าจะถูกวางตัวเป็น “บอร์ด” ททท.รอบนี้ นอกจาก “คุณชัย” ที่เป็นโดยตำแหน่งแล้ว น่าจะมีชื่อ “โก้-ภูมิกิตติ์” แน่นอน ส่วนจะมี “ส้ม-ศิริรัตน์” ด้วยหรือไม่นั้น ต้องรอลุ้นกัน
ปิดตำนาน “โกจง-ชำนาญ”
ด้าน “โกจง-ชำนาญ ศรีสวัสดิ์” อดีตประธานสภาท่องเที่ยว 2 วาระ รวม 4 ปี ที่เพิ่งหมดวาระลงนั้น ก่อนหน้านี้ได้ให้สัมภาษณ์สื่อและย้ำมาโดยตลอดว่า ผู้สมัครเป็นประธานสภาท่องเที่ยวทั้ง 4 คนในครั้งนี้เป็นทีมเดียว เป็นคนที่สนับสนุนตนขึ้นเป็น “ประธาน” ใน 2 วาระที่ผ่านมา เรียกว่าไม่มีใครเป็น “ฝ่ายตรงข้าม”
ดังนั้น ไม่ว่าใครจะได้เป็นประธานสภาท่องเที่ยว อีก 3 คนที่เหลือก็ยังเป็นทีมเดียวกัน ยังคงทำงานสนับสนุนซึ่งกันและกันอยู่เหมือนเดิม ซึ่งตนก็ยืนอยู่บนความ “เป็นกลาง” และสนับสนุนทั้ง 4 คนให้ทำงานร่วมกันต่อไป
ขณะที่แหล่งข่าวในวงการท่องเที่ยวอีกรายหนึ่งบอกกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ในความเป็นจริงแล้ว ใคร ๆ ก็รู้ว่าอดีตประธานสภาท่องเที่ยวผู้นี้คุมเกมและสนับสนุนผู้เสนอตัวเป็นประธานรายหนึ่งไว้เช่นกัน
แน่นอนว่า ก็มีเงื่อนไข “ต่อรอง” ที่ไม่น้อยเช่นกัน
โดยยืนยันว่า ที่ชัดเจนที่สุดคือ ขอให้ส่งชื่อตัวเองเข้าไปเป็น 1 ใน 8 ผู้ทรงคุณวุฒิที่ร่วมเป็นคณะบริหารสภาท่องเที่ยว และยังแว่วมาด้วยว่าเป้าหมายที่มากกว่านั้นคือ เป็น 1 ใน 3 ตัวแทน สทท. เพื่อไปนั่งเป็น “บอร์ด” ททท.อีกครั้ง
แหล่งข่าวยังบอกด้วยว่า เมื่อผลการเลือกตั้งครั้งนี้ออกมาแบบ “เปลี่ยนขั้ว” เช่นนี้ จึงเท่ากับเป็นการปิดตำนานขั้วอำนาจของ “โกจง-ชำนาญ” ไปโดยปริยาย
และยังเชื่อด้วยว่า การก้าวเข้ามาเป็นผู้คุมเกมแบบเบ็ดเสร็จให้กับ “คุณชัย” ของ “โก้-ภูมิกิตติ์” ในครั้งนี้ นอกจากจะสามารถ “พลิกขั้ว” สำเร็จแล้ว ยังถือเป็นการสร้างฐานให้ตัวเอง เพื่อก้าวสู่ตำแหน่ง “ประธาน” สทท.ในอีก 2 ปีข้างหน้าอีกด้วย
ในช่วง 2 ปีนับจากนี้จึงเป็นที่น่าจับตาอย่างยิ่งว่า สภาท่องเที่ยวจะสามารถยกระดับบทบาทให้เป็นที่ยอมรับจากทั้งภาครัฐและเอกชน และสามารถบริหารงานได้โปร่งใส เป็นธรรม เพื่อประโยชน์ของส่วนรวมได้แค่ไหน และ “ชัย อรุณานนท์ชัย” จะเป็น “ตัวจริง” หรือเป็นแค่ “หุ่นเชิด” อย่างที่ใคร ๆ พูดกันหรือไม่ ?
อ่านข่าวต้นฉบับ: ‘โก้-ภูมิกิตติ์’ ผงาด สทท. ‘ชัย อรุณานนท์ชัย’ ตัวจริงหรือหุ่นเชิด ?